แม้ว่าน้องๆอยากจะเข้าเตรียมฯขนาดไหนก็ตาม แต่พี่ว่าค่าย Pre-MWITS(ซึ่งจัดสำหรับน้องๆที่ติดรอบแรกไปแล้ว)ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีอย่างนึงเลยนะครับ พี่ก็ไม่อยากให้น้องพลาดโอกาสดีๆนี้ไป ที่แม้จะมีเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเข้าได้ง่ายๆแล้ว ชีวิตนึงมีโอกาสแค่ครั้งเดียวก็ลองสอบให้ติดรอบแรก แล้วลองเข้าค่ายดูแล้วจะรู้สึกยังไง 😀
เรามาอ่านความรู้สึกคนที่เคยเข้าค่ายนี้กันดีกว่าครับ …
/*สำหรับวันแรกที่เข้าค่ายนะครับคือ
เริ่มวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554 ในวันแรกนี้(ก่อนสอบวันที่สองประมาณก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง) จะมีการนำกระเป๋าใส่เสื้อผ้า ขึ้นไปเก็บบนหอพักก่อนและลงทะเบียนเข้าพักในหอพักครับ โดยรุ่นพี่ในค่ายนี้เป็นคนยกให้ ตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นที่ผมพัก(ขอบคุณมากครับ)กระเป๋าผมนี่ก็หนักมาก หลังจากนั้นก็นั่งเตรียมตัวเข้าสอบ หลังสอบเสร็จ ประมาณ 14.00 น.
หลังจากนั้นรอถึงประมาณ 17.00 น. ก็เริ่มลงทะเบียนเข้าค่าย ซึ่งผมอยู่ในกลุ่ม 12 หลังจากนั้นก็รอประกาศเข้ากลุ่ม
เมื่อถึงเวลาประกาศเข้ากลุ่ม เข้าแถวกัน และเดินแถวไปที่ห้องประชุมรุ่นพี่ก็สันทนาการน้องค่าย มีการทำความรู้จักกันภายในกลุ่ม
จากนั้นท่านผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ได้ให้เกียรติมาเปิดงาน ค่าย “Pre MWITS Camp” เมื่อกล่าวจบ ก็มีรุ่นพี่ที่เรียนจบแล้วประมาณรุ่นที่ 10 มากล่าวว่า “ทำไมต้องเรียนที่มหิดลวิทยานุสรณ์” เมื่อกล่าวจบก็มีการสวดมนต์และพาน้องๆเข้าหอพักครับ และเจอเพื่อนๆร่วมห้องพัก มีโรงเรียนสวนกุหลาบฯ สามเสนฯ และสุราษฎร์ธานีฯ(ใส่ชุดและปักชื่อย่อโรงเรียนเหมือน โรงเรียนวัดสุทธิฯมากเลย)
สำหรับวันที่สองก็เริ่มมีกิจกรรมมากขึ้นครับผมตื่นแต่เช้า(กลัวโดนแย่งห้องอาบน้ำ) และรีบลงมากินข้าว(ก่อนเพื่อนในกลุ่ม) เริ่มเข้าแถว ช่วงเช้ามีอาจารย์ที่ปรึกษามาให้คำแนะในเรื่องการเข้าค่ายที่นี่ และเรื่องต่างๆครับ และเริ่มกิจกรรมขึ้น โดยมีการเข้าฐานต่างๆ เพื่อเห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของรุ่นพี่มหิดลฯที่นี่ ปลูกฝังให้รักชาติไทย ความเป็นไทย สร้างความสามัคคี ทำความรู้
จักกันในกลุ่มครับ เมื่อเข้าฐานเสร็จจึงไปทานอาหารกันในโรงอาหารโดยแบ่งกันเป็นกลุ่มเช่นเคย และเริ่มกิจกรรมต่อมาครับคือกิจกรรม “Evolution”เป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์ครับ
เมื่อกิจกรรมนี้จบ(ก็นานอยู่นะครับ กิจกรรมนี้สนุกมากๆ) ก็ปล่อยรุ่นน้องมาทานข้าว(ช่วงนี้จะเป็นอิสระครับ) และ
ขึ้นห้องประชุมอีกครั้งครับ มีกิจกรรมต่างๆ ฝึกความกล้าแสดงออก เมื่อลงจากห้องประชุมรุ่นพี่ก็ให้ปิดตาเดินเกาะหลังกันเป็นแถว รุ่นพี่ก็ร้องเพลงขึ้นครับ(ซึ่งผมก็จำได้บางส่วน)คือ “ดอกไม้ แย้มกลีบ บาน อยู่ในใจฉัน…”
ช่วงนี้รู้สึกซึ้งครับ และเข้าแถวกันหน้าเสาธง รุ่นพี่ก็บูมมหิดลฯขึ้น(ก็ซึ้งอยู่ดีครับ)ว่ารุ่นพี่ทำให้เราขนาดนี้เลยหรือ และเข้าหอพักครับ โดยพรุ่งนี้เช้าจะนัดกัน มาตักบาตรเช้าๆและใส่ชุดนักเรียนลงมา
วันที่สาม(วันลาจาก) ผมก็นำกระเป๋าลงมาฝากชั้น1ของหอพักชาย ก็มีเพื่อนร่วมกลุ่มนำใบมาให้เขียน…”อย่าให้พี่กลุ่มเห็นนะ” นี่เป็นคำที่เขาพูด ในใบจะเขียนแสดงความคิดเห็นและคำขอบคุณที่มีต่อพี่กลุ่ม เพื่อเป็นการเซอไพรส์ รุ่นพี่
จากนั้นจึงทานอาหารเช้าและตักบาตร มีการถ่ายรูปหมู่ของกลุ่มกันขึ้น
(สามารถกดที่ภาพ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้นะครับ)
ไปเข้าแถวหน้าเสาธง พบครูที่ปรึกษาพูดคุยเกี่ยวกับโรงเรียนมหิดลฯครับ จากนั้นจึงดูรูปความหลังที่รุ่นพี่ถ่ายพวกเราขณะเข้าค่ายกันครับ(เปิดเพลงด้วย ซึ้งมากเลยครัุบ) ดูคลิปวีดีโอจำลองชีวิตความเป็นอยู่และกฎระเบียบขั้นพื้นฐานในโรงเรียนมหิดลฯ จากนั้นรุ่นพี่ก็เริ่มให้เขียนความคิดเห็นซึ่งกันและกันกับเพื่อนๆในกลุ่ม(มีการให้อีเมลล์ เบอร์โทรกันด้วยหละ ^^ดีใจมาก…”จะได้ไม่ลืมกัน”)พี่ๆผูกสายสิญจน์ให้น้องๆ เมื่อเสร็จกิจกรรมนี้ครับ ก็ไปที่แห่งหนึ่งรุ่นพี่ก็สรุปเกี่ยวกับเรื่องค่าย”Pre Mwits Camp”ปีนี้ เปิดดูภาพที่ร่วมทำกิจกรรมซึ่งกันและกัน(มีเพลงประกอบด้วยครับ) และให้น้องๆหญิง1คน ชาย1คน มาแสดงความคิดเห็นที่มีต่อพี่ค่าย สำหรับผู้ชายก็พูดได้กินใจครับ แต่ผู้หญิงพูดได้กินใจมากกว่า พูดไปร้องไป(ผมก็เริ่มร้องเหมือนกันครับ แต่เงยหน้าไว้ไม่ให้น้ำตาไหล)…และแล้วเวลาแห่งการจากลาก็มาถึง(T_T…ไม่อยากจากเลย)รุ่นพี่จึงให้CDรูปภาพมาครับ ให้ป้ายประจำตัวมาเป็นที่ระลึก ให้เหรียญบาทมาหนึ่งเหรียญ(พี่บอกว่า”นำมาคืนวันเปิดเทอมนะ”)และความคิดเห็นที่พี่กลุ่มมีต่อน้องกลุ่มแยกเป็นรายคนครับ… */
อ้อ! สำหรับเหตุผลที่ว่าทำไมต้องมี มหิดลวิทย์ฯ ก็ลองอ่านดูกันนะครับ =>ทำไมต้องมี มหิดลวิทย์ฯ!!!